รีวิว (พลีชีพ) เด็กพยาบาลหน้าสิว ผิวพัง กลายเป็น สาวหน้าใส ในงบ 290 บาท! Cr.เบบี้มาย
5 ปีที่ผ่านมา
สวัสดีค่า... ชื่อกระทู้อาจจะดูเว่อร์วังอลังการไปนิดหน่อย ประหนึ่งนิยายแจ่มใส 555 ตอนนี้จริงๆ หน้าก็อาจจะยังไม่ใสมาก แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้วคือดีกว่าเดิมมากๆ ค่ะ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เหล่าผู้ผจญกับสิวอยู่ ได้เป็นกำลังใจ
(ยาวหน่อยนะคะ แต่อยากจะลงรายละเอียดให้)
แนะนำตัวกันก่อนอีกรอบนะคะ
เราชื่อ ชื่อมาย นะคะ กำลังเรียนพยาบาลปี 4 อยู่ (ชื่อเนียนตอนรับน้องชื่อ เบบี้มายค่ะ) ต้องบอกเลยว่ามายกับสิว เป็นของคู่กันค่ะ เหมือนขวัญคู่กับเรียม โกโบริคู่กับอังศุมาริน ยังไงยังงั้น เป็นสิวมาตั้งแต่ ม.1 ค่ะ และเป็นมาตลอดจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หายขาด รักษามาหมด ตั้งแต่คลินิกชื่อดัง (มายเชื่อว่าทุกคนรู้จัก แต่ขอไม่เอ่ยนามแล้วกันเนอะ) โอ้ย สารพัดจะหาค่ะ 55555 เรียกได้ว่าตังที่หมดไปนี่ เอาไปโมหน้าใหม่ที่เกาหลี ไมต้องง้อ Let Me In กันได้เลยทีเดียว
แต่.. จุดเปลี่ยนมันอยู่ตอน ปี 1 ขึ้น ปี 2 ค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงซ้อมฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมจะรับน้องๆ ปี 1 ที่จะเข้ามา ตอนนั้นมายอยู่ฝ่ายที่ต้องตื่นมาซ้อม เจอฝุ่น เต้น กลับดึก เครียด โอ้ยยยยย สารพัด ไอหน้าที่มีสิวขึ้นมาประปราย แต่ยังคงความเป็นคนไว้ก็เริ่มประท้วง สิวปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งวันนึง..... ส่องกระจกพิจารณาหนังหน้าตัวเองดีๆ ถึงกับตกใจค่ะ ภาพต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่กระทบจิตใจ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำค่ะ
นี่ขนาดกล้องมันยังไม่ชัดนะคะ ยังน่ากลัวขนาดนี้ T T
ท๊าด๊าาาาาาาาาาาาาาาาา โอโหวววววว นี่หนังหน้าคนหรือหนังเขียดค่ะเนี่ย เครียดมากๆ ค่ะ ไปหาหมอสิวแถวๆ มหาลัย ได้ยากินมาสารพัด แถมได้ isotretinoin มากินอีกตะหาก (มันคือ Roaccutane นั่นแหล่ะค่ะคุณขา) แต่หลังจากวันนั้น
อาจารย์สอนเลคเชอร์พอดีว่า เนี่ยนะ ยาตัวนี้มันเป็นอนุพันธุ์วิตามิน A นะ กินไปนานๆ เข้า จะทำให้ คอเลสเตอรอล ในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ O___o OMG จากนั้นเลยเลิกเลยค่ะ กลับมารักษาหนังหน้าตัวเองโดยไม่พึ่งยา… สิวยังคงขึ้นมาบ้าง อุดตันบ้าง อักเสบบ้าง แต่ก็พยายามอดทน และดูแลตัวเองต่อไป
เวลามายเป็นสิวเยอะๆ ผิวหน้าจะดูอ่อนแอ อักเสบง่าย แดงง่ายมากๆ เป็นคนแพ้ง่ายนั่นแหละ จนกระทั่งวันนึง…
ปล. ในรูปแต่งตา แต่ไม่ทารองพื้น หรือ BB ใดๆ นะคะ (:
เขียดลอกคราบแล้วค่ะคุณณณ หนังหน้าดีขึ้นมาก จนเพื่อนเข้ามาทักว่าหน้าใสขึ้นนะเห้ย
หน้าตาไม่มีสิว ถ่ายอะไรก็ดูดี มั่นไปหมด (ชมตัวหน่อย)
พอมาสังเกตดู เออหว่ะ ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนโขเลย 55555 แต่กว่าจะผ่านอะไรมานี่ไม่ใช่ง่ายเลย บอกเลยว่าไม่เคยสนใจใครจะว่าสำอางหรือยังไง แต่ทุกๆ วัน ไม่ว่าจะตื่นสายหรือกลับดึก ง่วงนอน เหนื่อยแค่ไหน ยังไง มายจะไม่เคยละเลยที่จะเช็ดหน้า ล้างให้สะอาด แล้วตามด้วย Skin Care ตัวเด็ดที่มายใช้ทุกวัน
Skin Care ที่ใช้มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายตัวในหลายปี ที่ผ่านมา แต่ skin care ต่อไปนี้คือตัวที่มายคิดว่ามัน OK คิดว่าเห้ย ได้ผลนะ ผิวเราดูดีขึ้นจากการ ใช้จริงๆ เลยอยากมาแชร์ ไหนๆ เราก็เรียนพยาบาลมาแล้ว อ่าน guideline การใช้ยารักษาโรคมาเยอะ อย่างงั้นวันนี้มายขอออก Guideline ของมายเองบ้างแล้วกัน 5555
งั้นมาพบกับ Skin Care Guideline ที่ช่วยกอบกู้หนังหน้าของมายกันเถอะ!
ส่วนตัวนะคะ ลงลำดับตามนี้เลยค่ะ
1. Cleansing = ที่ล้างเครื่องสำอาง (หามาใช้เถอะ ประเทศเราฝุ่นมันเยอะ ลอง Ganier Micellar สองร้อยกว่าบาท)
2. เจล/โฟมล้างหน้า (ส่วนตัวมายใช้ Acne Aid ราคาเกือบสองร้อย)
เป็นสบู่ล้างหน้ายอดรักยาหยี ของมายเลยค่ะ ใช้ตั้งแต่ตอนเป็นสิวหนักๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังคงใช้อยู่ ล้างออกสะอาดหมดจด แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่แห้งตึง สบายผิว ราคาไม่รุนแรง เหมาะแก่นักศึกษาด้วยประการทั้งปวงค่ะ
ปล. ทุกวันนี้มายเอามันมาผสมน้ำแล้วใส่ขวดปั๊มฟองเป็นฟองวิป แล้วมาถูเลยประหยัดเวลามากๆ ค่ะ 55
มาต่อกัน...
3. โทนเนอร์ = โทนเนอร์ปรับสภาพผิวและทำให้การลง skin care ลำดับต่อๆไปซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น (SMOOTH E ACNE สีเขียวสองร้อยกว่าบาท)
4. เซรั่ม (เซรั่มสำคัญสุด อันนี้แหละ 2xx บาท แล้วแต่ช่วงโปร)
5. Sunscreen(สำหรับกลางวัน จำเป็นมาก ดู SPF 50+ เหมาะกับแดดไทย เป็นจบ)
พระเอกเลย นิสิตเซรั่ม ตัวโปรดที่มายใช้มาโดยตลาดหลังจากฟาดฟันกับตัวอืนๆ มานาน
เรื่องของเรื่อง คือ เราเองตามสไตล์พยาบาล เราจะชอบเน้นอ่านเรื่องของสารประกอบที่เขาเอามาใช้ ซึ่งเอาจริงๆมันสำคัญมากกกกกกกกก
เขียดลอกคราบแล้วค่ะคุณณณณณ หนังหน้าดีขึ้นม
- ไม่มีพาราเบน
- ไม่มีน้ำหอม
- ไม่มีแอลกอฮอร์
- ไม่มีสีสังเคราะห์
- ไม่มีน้ำมัน
- ไม่มีสารอันตรายใดๆ
มายหน้ามันค่ะ เลยใช้ตัวนี้มันอ่อนโยน ไม่เคยแสบ ไม่มีน้ำหอมด้วย ใครที่แพ้น้ำหอม ตัวนี้ไม่แพ้แน่นอน
แต่สำหรับใครที่ไม่เคยใช้ มายแนะนำให้ทดสอบทาบนท้องแขน คอ ข้างกราม ก่อนเพื่อความชัวร์
***พาราเบน อันนี้มายขอให้เป็นความรู้นิดนึง คือ จริงๆแล้วสารนี้มันช่วยเรื่องการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบนหน้าเราได้ แต่ๆๆ ข้อเสียของมันคือมันจะไปทำลายฮอร์โมนของร่างการ เช่น พวกเอสโตรเจน และ เทสโทสเตอโรน (งงกันไหม เอาเป็นว่าข้อเสียมันเยอะกว่าข้อดีที่เราจะได้ ถ้าเจอสารนี้ แนะนำเลี่ยง!)